ผลกระทบของวัฏจักรเศรษฐกิจ
ในปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทวัฏจักรเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกว่าสภาพคล่อง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินงานของธุรกิจและอัตราแลกเปลี่ยน ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของตลาดเงินตรา ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างวัฏจักรเศรษฐกิจกับอัตราแลกเปลี่ยนจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม วัฏจักรเศรษฐกิจประกอบด้วยสี่ช่วงคือ การถดถอย วิกฤต การฟื้นตัว และความเจริญรุ่งเรือง โดยทั่วไปในช่วงการถดถอยของเศรษฐกิจ ราคาเงินจะเริ่มลดลงอย่างช้า ๆ ในช่วงวิกฤต ราคาจะตกต่ำที่สุด และเมื่อเริ่มฟื้นตัว ราคาเงินจะแสดงแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดในช่วงความเจริญรุ่งเรือง
สาเหตุและผลกระทบ
สาเหตุที่แท้จริงของความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือเมื่อเศรษฐกิจเริ่มถดถอย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะขายไม่ออก กำไรจึงลดลง ส่งผลให้บริษัทลดปริมาณการผลิต ทำให้เงินปันผลและค่าตอบแทนลดลง นักลงทุนที่ถือเงินตราอาจขายออกเมื่อพบว่าอัตราผลตอบแทนจากการแลกเปลี่ยนไม่ดี ซึ่งทำให้ราคาเงินลดลง เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ชีวิตทางเศรษฐกิจจะหยุดชะงัก มีบริษัทจำนวนมากล้มละลาย และผู้ถือเงินตราเพราะมีมุมมองในทางลบรายขายออกทั้งหมด ส่งผลให้ราคาทั้งระบบของตลาดเงินลดลงและเกิดความยุ่งเหยิงและซบเซา หลังจากที่วัฏจักรเศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุด ตลาดเริ่มฟื้นตัวช้า ๆ เมื่อมีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สินค้าเริ่มมีการขายที่มากขึ้น บริษัทเริ่มแจกจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างช้า ๆ นักลงทุนในตลาดเงินตราจึงเริ่มกลับมามองเห็นผลกำไรในการถือเงิน และเริ่มซื้อเข้ามา ทำให้ราคาเงินฟื้นตัว
ช่วงฟื้นตัวและวิวัฒนาการของเศรษฐกิจ
เมื่อเศรษฐกิจไปถึงช่วงความเจริญรุ่งเรือง บริษัทมีความสามารถในการผลิตสินค้าหรือบริการที่สูงขึ้น สถานการณ์การขายสินค้าดีขึ้น บริษัทเริ่มสร้างกำไรมากมาย ดอกเบี้ยและผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ราคาของเงินก็ขึ้นสู่จุดสูงสุด วัฏจักรเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาเงิน แต่ความเปลี่ยนแปลงระหว่างทั้งสองนั้นไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างสอดคล้องกัน โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าช่วงใดของวัฏจักรเศรษฐกิจ ราคาเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงนำหน้าวัฏจักรเศรษฐกิจเสมอ กล่าวคือ ก่อนที่เศรษฐกิจจะถดถอย ราคาก็เริ่มลดลง และก่อนที่การฟื้นตัวจะเกิดราคาก็เริ่มปรับสูงขึ้น สภาพของเศรษฐกิจที่ยังไม่ไปถึงระดับสูงสุด ราคาเงินจะเห็นจุดสูงสุด และขณะที่เศรษฐกิจหนักแน่นอยู่ในช่วงถดถอย ตลาดเงินเริ่มเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุด นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเปิดตลาดหุ้นถึงมีการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนและปฏิกิริยาทางจิตใจต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ
กลยุทธ์การลงทุนในตลาดเงินตรา
กลยุทธ์การลงทุนในตลาดเงินตราตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ได้แก่ ในช่วงการถดถอย นักลงทุนมุ่งเน้นเพื่อรักษาเงินทุน โดยมากจะถือเงินสด (เงินฝากออมทรัพย์) และหลักทรัพย์เงินฝากระยะสั้น เพื่อลดการขาดทุนจากการลงทุนในช่วงถดถอย และรอคอยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพื่อเข้าสู่ตลาดเงินอย่างเหมาะสม ในขณะที่ช่วงเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง สถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวมดีขึ้นและกำไรเพิ่มขึ้น แม้แต่รายย่อยที่ไม่เข้าใจการวิเคราะห์ตลาดเงินก็สามารถทำกำไรจากการลงทุนในตลาดเงินได้ นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่มีการหยุดชะงัก เช่น ในสถานการณ์ที่ทั่วไปกำไรเท่าที่คาดว่าจะแตกต่างเพิ่มขึ้นหรือเนื่องจากบริษัทขยายขนาดจึงเพิ่มทุนจะมีการนำเงินเข้ามาในตลาดหุ้นอย่างมากมาย แต่มีปรากฏการณ์ที่เงินไม่ได้ไหลออกจากตลาดเงิน แต่กลับไหลเข้ามายังตลาดเงิน โดยเฉพาะในช่วงนี้รัฐบาลจะกระตุ้นการนำเข้าส่งออกภาษีบรรเทาความเจริญรุ่งเรือง บริษัทที่มีอุปกรณ์เกินจึงไม่ต้องมีการลงทุนใหม่ ทำให้มีเงินทุนสำรองเป็นจำนวนมาก เมื่อทุนเหล่านี้ไหลเข้าสู่ตลาดเงิน ราคาของตลาดเงินและการซื้อขายจะไม่ขึ้นอยู่กับกำไรของบริษัท แต่จะนำไปสู่การเก็งกำไร
การคัดเลือกการลงทุนในสภาพตลาดที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้การลงทุนในตลาดเงินยังต้องสามารถมองเห็นแนวโน้มของตลาดในภาพรวมและเข้าใจว่าเงินตราประเภทต่าง ๆ ทำงานอย่างไรในสภาพตลาดที่แตกต่างกัน บางสกุลเงินมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นในช่วงเริ่มต้นของแนวโน้มการเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าโภคภัณฑ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขณะที่บางสกุลเงินกลับแสดงความสามารถในการรักษาตัวในช่วงท้ายของแนวโน้มการลดลง เช่น หุ้นบริการสาธารณะและสินค้าใช้จ่ายที่มีอุณหภูมิความต้องการต่ำที่สุด สรุปได้ว่านักลงทุนควรพิจารณาคุณสมบัติของแต่ละสกุลเงิน เพื่อให้สามารถเริ่มเลือกอย่างแม่นยำในสภาพตลาดที่แตกต่างกัน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น