ดัชนีนิกเคอิ 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน
วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน ดัชนีนิกเคอิ 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงสั้น ๆ โดยเพิ่มขึ้น 0.55% หลังจากที่แตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนก่อนหน้า
แรงขายของนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การขายหุ้นจำนวนมากจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นปัจจัยที่เร่งการลดลงของหุ้นญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลระบุว่า ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 พฤศจิกายน นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในหุ้นญี่ปุ่นมูลค่า 4,460 พันล้านเยน ขณะที่นักลงทุนญี่ปุ่นขายสุทธิในหุ้นต่างประเทศมูลค่า 3,181 พันล้านเยน
นโยบายการค้าของสหรัฐฯ เป็นอีกปัจจัยกดดัน
ท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนการเพิ่มภาษีสำหรับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ปัจจุบัน สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตราพื้นฐาน 2.5% (ไม่รวมรถกระบะ) โดยทรัมป์เสนอให้เพิ่มเป็น 10% ถึง 20%
ในปี 2023 ญี่ปุ่นส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ จำนวน 1.48 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2022 และคิดเป็น 34% ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของญี่ปุ่น
แนวโน้มค่าเงินเยนและนโยบายธนาคารกลางญี่ปุ่น
การสำรวจตลาดระบุว่า 56% ของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม
นอกจากนี้ 90% ของนักวิเคราะห์เชื่อว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.50% ภายในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า ขณะที่ค่ามัธยฐานของการคาดการณ์ชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายของ BOJ จะอยู่ที่ 1.00%
คาดการณ์การเติบโตของดัชนีนิกเคอิในระยะยาว
แม้ว่าดัชนีนิกเคอิจะอ่อนตัวในช่วงนี้ แต่การสำรวจจากนักวิเคราะห์ 18 ราย คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ 40,625 จุดภายในกลางปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.8% จากราคาปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ช่วงของการคาดการณ์อยู่ระหว่าง 35,775 ถึง 43,400 จุด โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อในช่วงครึ่งหลังของปี และแตะระดับ 42,500 จุดภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งสูงกว่าสถิติสูงสุดในวันที่ 11 กรกฎาคมที่ 42,426.77 จุด
ความคิดเห็นจากนักกลยุทธ์
Yunosuke Ikeda หัวหน้ากลยุทธ์หุ้นของ Nomura ในโตเกียวกล่าวว่า: "เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง เราคาดว่าฤดูการจับจ่ายปลายปีจะช่วยสร้างโอกาสที่ดีให้กับผู้ส่งออกญี่ปุ่น"
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น