สองวิธีการซื้อขายข่าวสาร

การซื้อขายข่าวสารมีสองวิธีคือ: 1. การซื้อขายที่มีทิศทาง 2. การซื้อขายที่ไม่มีทิศทาง

การซื้อขายที่มีทิศทาง

การซื้อขายที่มีทิศทางหมายถึงคุณคาดการณ์ว่าหลังจากข่าวสารประกาศ ตลาดจะมีการเคลื่อนไหวตามทิศทางที่เฉพาะเจาะจง เมื่อเราค้นหาโอกาสในการซื้อขายในทิศทางใด ๆ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าปัจจัยใดในรายงานข่าวที่ทำให้ตลาดเคลื่อนไหว

ค่าคาดหมาย vs ค่าจริง

หลายวันหรือหลายสัปดาห์ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานข่าว ผู้เชี่ยวชาญจะทำการคาดการณ์ข้อมูลที่จะแจ้งในรายงาน ก่อนหน้านี้เราได้พูดคุยถึงแนวโน้มที่ตัวเลขคาดการณ์จากผู้วิเคราะห์ต่าง ๆ จะไม่ตรงกันทั้งหมด แต่จะมีตัวเลขหนึ่งที่เกือบทุกคนเห็นด้วย ซึ่งตัวเลขนี้คือ “ค่าคาดหมาย” ที่เราจะเห็นในปฏิทินการเงิน

เมื่อมีการประกาศรายงานข่าว ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยจะเรียกว่า “ค่าจริง”

ซื้อข่าวลือ ขายข่าว

นี่คือคำพูดที่มีชื่อเสียงในตลาด Forex เพราะโดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีการประกาศรายงานข่าวมีแนวโน้มว่าตลาดจะไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาดหวัง

ตัวอย่างเช่น ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น สมมุติว่าอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้วอยู่ที่ 8.8% และตลาดคาดว่าจะมีการประกาศอัตราการว่างงานที่ 9.0%

เพราะค่าคาดหมายอยู่ที่ 9.0% นั่นหมายความว่าผู้เข้าร่วมการตลาดหลักคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะอ่อนตัวลง และนั่นนำไปสู่อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนแอขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงคาดการณ์นี้ ผู้เข้าร่วมการตลาดขนาดใหญ่จะไม่ร้องขอให้รอตัดสินใจจนกว่าจะมีการประกาศ พวกเขาจะเริ่มขายดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินอื่น ๆ ก่อนที่รายงานจะประกาศ

ตอนนี้ สมมุติว่าข้อมูลอัตราการว่างงานที่ประกาศเหมือนกับค่าคาดหมายที่ 9.0% ในฐานะที่คุณเป็นนักเทรด Forex คุณอาจจะคิดว่า “โอเค ข้อมูลแน่นอนแย่ ตอนนี้ถึงเวลาขายดอลลาร์สหรัฐแล้ว!”

อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเตรียมจะขายดอลลาร์สหรัฐในแพลตฟอร์มการซื้อขาย คุณจะพบว่าตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวไปตามที่คุณเชื่อ

เหตุผลคือ ผู้เข้าร่วมตลาดขนาดใหญ่ได้ปรับพอร์ตการลงทุนของพวกเขาไปแล้วก่อนที่รายงานจะประกาศ และหลังการประกาศ พวกเขาได้เลือกที่จะล็อกกำไร

การวิเคราะห์ค่าคาดหมายและค่าจริง

ตอนนี้ลองมาดูตัวอย่างอีกครั้ง แต่คราวนี้สมมุติว่าข้อมูลอัตราการว่างงานที่ประกาศคือ 8.0% ผู้เข้าร่วมตลาดก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นถึง 9.0% แต่ข้อมูลที่เปิดเผยแสดงว่าอัตราการว่างงานลดลง ซึ่งแสดงว่าดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น

คุณจะเห็นกราฟของดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะผู้เข้าร่วมตลาดขนาดใหญ่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

เนื่องจากมีการประกาศข้อมูลและข้อมูลที่เกิดขึ้นสุดท้ายนั้นแตกต่างจากค่าคาดหมาย พวกเขาจะพยายามปรับพอร์ตการลงทุนอย่างรวดเร็ว

กลยุทธ์การซื้อขายที่ไม่มีทิศทาง

ถ้าหากค่าที่ประเมินสุดท้ายสูงถึง 10.0% สถานการณ์ที่คล้ายกันนี้ก็จะเกิดขึ้น ความแตกต่างเดียวคือ ดอลลาร์สหรัฐจะไม่เพิ่มขึ้น แต่จะลดลงอย่างมาก เนื่องจากตลาดคาดการณ์อัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 9.0% แต่จริงๆ แล้วอยู่ที่ 10.0% นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่จะขายดอลลาร์ที่ถืออยู่มากขึ้นเพราะเศรษฐกิจสหรัฐมีความอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้

การวิเคราะห์ค่าคาดหมายและค่าจริงสามารถช่วยให้คุณประเมินได้ดียิ่งขึ้นว่ารายงานข่าวใดที่อาจทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหว รวมถึงทิศทางที่ตลาดเลือก

กลยุทธ์การซื้อขายที่แพร่หลายมากขึ้นคือการซื้อขายที่ไม่มีทิศทาง วิธีนี้จะไม่สนใจการเคลื่อนไหวในทิศทางของตลาด แต่พักฐานจากความจริงที่ว่ารายงานข่าวสำคัญจะทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวอย่างมาก ไม่สำคัญว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด

กล่าวคือ เมื่อมีการเคลื่อนไหวของตลาดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง คุณจะมีแผนการซื้อขายที่จะรับมือ คุณไม่จำเป็นต้องมีแนวโน้มในการขึ้นหรือลง ดังนั้นจึงเรียกว่า การซื้อขายที่ไม่มีทิศทาง